หูกาง และการผ่าตัดแก้ไขหูกาง เป็นที่นิยมในต่างประเทศมาก เพราะฝรั่งจะไม่ชอบหูกาง ถ้าเปรียบเทียบคนไทยที่ไม่ชอบจมูกแบนต้องเสริมจมูก หรือทำตาสองชั้น หรือคนญีปุ่นที่จะไม่ชอบการมีขนมากๆ ไม่ว่าจะแขน ขา หน้าแข้ง ต้องพยายามหาคลินิกที่ทำเลเซอร์กำจัดขน พร้อมทั้งเครื่องไม้เครื่องต่างๆ มาช่วยกำจัดขนทุกเส้น และให้อยู่นานถาวรเท่าไรยิ่งดี กลับมาที่ หูกางนั้นแม้ว่าคนเอเชียจะมีอัตราส่วนของหูกางมากกว่าฝรั่ง แต่การผ่าตัดหูกาง ถือเป็นการผ่าตัดลำดับต้นๆในชาติตะวันตก ส่วนในประเทศไทยก็จำนวนคนที่มีหูกางพอสมควร และก็เริ่มๆนิยมแก้ปัญหานี้กันมากขึ้นในช่วง 10-20 ปีให้หลังนี้
สัดส่วนของใบหู เทียบกับใบหน้า ก็มีความสำคัญนะครับ ลอกนึกถึงคนที่มีรูปหน้าใหญ่ แต่ใบหูเล็กๆ (ตามโหงวเฮ้ง อาจจะบอกว่าเป็นคนไม่คิดอะไรมาก สบายๆ) หรือกับคนที่มีใบหูใหญ่ๆบนใบหน้าที่ใหญ่ๆด้วย อาจจะมีลักษณะไปทางความซื่อสัตย์ มั่นคง แต่ทั้งหลายทั้งปวงนี้ เป็นความเชื่อล้วนๆนะครับ และถ้าพูดถึงความยาวของใบหู ความเชื่อของคนไทย จะไปทางพุทธศาสนา ที่ว่า ใบหูยาว จะมีอายุยืน ทำให้การแก้ไขใบหูที่ยาวๆ ไม่ค่อยพบในเมืองไทยน่ะครับ

ใบหูยาว เขาว่าจะมีอายุยืนเหมือนพระพุทธเจ้า
สำหรับการรักษาหูกาง จริงๆแล้ว มีหลายวิธี ขึ้นกับส่วนไหนของใบหูกางเยอะ เราก็จัดการกับส่วนนั้นโดยตรง เช่น
- ตัดฐานแอ่งหูที่กางออก
- เย็บส่วนพับบริเวณขอบใบหู
- ลดขนาดใบหู โดยการตัดด้านหลัง แล้วเย็บดึงมาด้านหลัง
การทำผ่าตัด จะใช้วิธีการฉีดยาชาเป็นหลัก เพราะถือเป็นการผ่าตัดเล็ก เจ็บน้อย , จากประสบการณ์ของหมอ การผ่าตัดนี้ ถือว่าเจ็บน้อยมาก เพราะบริเวณหลังใบหู เส้นประสาทไม่ค่อยเยอะ และการค่อยๆเดินชา ก็จะช่วยให้ไม่เจ็บมาก
ส่วนการดมยาสลบเพื่อทำผ่าตัด จะไว้สำหรับผู้ป่วยเด็กครับ

การทำผ่าตัด จะเริ่มจากวาดภาพดีไซน์หลังใบหู ในตำแหน่งที่จะตัดหนังออก โดยเราจะดูส่วนที่ยื่นเยอะ ก็จะมีส่วนกว้างเยอะ เพื่อดึงใบหูให้กลับมาได้มากขึ้น

เลาะส่วนเนื้อเยื้อหลังใบหูด้วย จะได้ไม่มากั้นตอนเย็บใบหูติดกับด้านข้างกระดูกท้ายทอย

ในคนที่มีแอ่งกระดูกใหญ่ เราจะเลาะส่วนนี้ออก เพื่อยุบให้หูกาง ลงมาติดกับด้านหลังให้มากที่สุด

นี้คือชิ้นส่วนกระดูกอ่อนที่ตัดออกมาแล้ว และพร้อมเย็บเพื่อลดหูกาง ให้ไปติดกับด้านหลัง
ส่วนตำแหน่งขอบใบหูก็เย็บเพื่อให้ใบหูพับมากขึ้นด้วย

เย็บใบหู ติดกับด้านหลังใบหู เพื่อแก้หูกาง จากนั้นก็เย็บปิดแผล
ส่วนบางคนที่มีติงหูยื่นออกมาเยอะๆด้วย ก็สามารถลงแผลดีซายน์ด้านหลังเป็นหูหางปลา เพื่อเอาเนื้อที่ติงหูยื่น ดันไปด้านหลังด้วย

หลังทำ ก็จะพันศรีษะไว้สัก 2-3 วันได้ยิ่งดี จะได้ไม่บวมมาก
ตัดไหม 10-14 วัน
ส่วนถ้าจะเริ่มออกกำลังกายหนักๆ เช่นวิ่ง ก็ควรจะรอให้ยุบลงดีหน่อย อย่างน้อย 1 เดือนขึ้นไป

ภาพก่อน และหลังแก้หูหาง จากด้านหน้า หูกางแคบลง

ภาพก่อน หลัง แก้หูหาง ด้านข้าง
ผลแทรกซ้อนหลังทำ ที่อาจพบได้
- เลือดออก : ปัญหาเลือดออก เป็นปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ในทุกการผ่าตัด และการป้องกัน เช่นการพันผ้ารอบศรีษะ จะช่วยกดทับ ป้องกันไม่ให้เลือดออก และถ้ายิ่งพันไว้นาน 2-3 วัน โอกาสเลือดออก ยิ่งน้อยมาก
- การติดเชื้อ : มักจะสัมพันธ์กับภาวะเลือดออก เลือดคั่ง ซึ่งโดยปกติจะป้องกันด้วยการให้ยาปฎิชีวนะด้วย รวมถึงการดูแลแผล ไม่ให้โดนน้ำ หรือเกิดการอับชื้น
- แผลเป็น : แผลผ่าตัดแก้หูกาง จะซ่อนไว้ด้านหลังตรงบริเวณร่องใบหู ซึ่งจะมองไม่เห็นจากด้านหน้า ดังนั้น ปัญหาแผลเป็นจึงพบน้อยมาก รวมถึงการใช้ยาลบรอยแผลเป็นตั้งแต่ช่วงแรก ก็จะช่วยลดได้อีกทางครับ
- การกลับมาเป็นซ้ำ : หลังจากเย็บแล้ว ไม่ควรดึงหรือแบะใบหูมาด้านหน้า (ปกติจะแนะนำให้เลื่อนเวลาตัดไหมเป็น 10-14 วัน เพื่อรอให้แผลแข็งแรงเพิ่มขึ้น) รวมถึงถ้าอยู่ด้าน อาจจะใช้ผ้าพันศรีษะช่วยประคองส่วนที่เป็นกระดูกอ่อนและไหมที่เย็บ ก็จะช่วยลดโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำได้
Reference
1.Cosmetic surgery of the Asian face by Jonh A.McCurdy