การเสริมจมูก เสริมดั้ง ที่นิยมทำกันในเมืองไทยหรืออย่างที่รีวิวกัน เราจะใช้ ซิลิโคนเหลาเอง เพื่อให้ได้รูปทรงที่ต้องการ การเสริมดั้งไม่ว่าจะเป็นทรงธรรมชาติ สูง เชิด หรืองุ้มปลายจมูก ก็สามารถเหลาโดยใช้ซิลิโคนมาเหลาให้ได้รูปทรงและแกนที่ต้องการ และต้องดูที่ฐานจมูกเดิมก่อนทำผ่าตัด รวมถึงความต้องการของผู้ที่จะเสริมจมูก และองค์ประกอบโดยรวมของทั้งใบหน้า เป็นหลัก
อายุ อย่างน้อย 17 ปีขึ้นไปในการเสริมจมูก แต่ถ้าอายุน้อยกว่า 20 ปี ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองด้วย .... แต่จริงๆก่อนทำ ก็ควรปรึกษาผู้ปกครองก่อนทุกครั้ง เพื่อให้ทราบถึงผลดี ผลเสียของการเสริมจมูก และการดูแลที่ถูกต้อง
โรคประจำตัว ก็ถือว่าสำคัญ ถ้าโดยปกติไม่มีโรคประจำตัว ก็สามารถเสริมดั้งได้ แต่ถ้ามีโรคประจำตัวบางอย่างก็ดูเป็นกรณีเช่น
โครงสร้างพื้นฐานของจมูกในคนเอเชีย คนไทย จะต่างกับคนทางฝั่งยุโรป หรือพวกฝรั่ง เช่น พื้นฐานจมูกคนเอเชียจะมีผิวหนังที่หนากว่า เนื้อเยื้อปลายจมูกจะมากกว่า กระดูกอ่อนส่วนล่าง(Lower Lateral Cartilage) จะอ่อนและบางกว่า โดยสรุปคือโครงสร้างอ่อนกว่า แต่ผิวภายนอกจะหนากว่า เพราะฉะนั้นการพิจารณาเกี่ยวกับการผ่าตัดจมูกนั้นในคนเอเชีย จะพิจารณาในส่วนการเสริมความสูงของแกนจมูก หรือที่เรียกว่าเสริมให้ดั้งโด่ง และการเสริมบริเวณปลายจมูก( Tip projection )
เราแบ่งง่ายๆก่อนศัลยกรรมเสริมจมูกว่า อยากได้ความสูงแบบไหน โดยเน้นที่ความสูงของแกนเป็นหลักคือ เสริมจมูกไม่ต้องสูงมาก(ธรรมชาติ) , เสริมจมูกสูงกลางๆ ดูมีสันขึ้นมา และสุดท้าย ทำดั้งให้ดูสูงโด่ง ตรงสันจมูก
รีวิว เสริมดั้ง ศัลยกรรม
รีวิว เสริมดั้ง ศัลยกรรม
รีวิว เสริมดั้ง ศัลยกรรม
รีวิว เสริมดั้ง ศัลยกรรม
รีวิวก่อนหลังผ่าตัดเสริมดั้ง
รีวิว เสริมดั้ง ศัลยกรรมเสริมจมูก
review ก่อนหลังทำจมูก ขั้นตอนคราวๆ
รีวิวเสริมจมูก
เสริมจมูก
ไม่ต้องประคบเย็นที่บริเวณดั้งจมูกหรือหน้าผาก เพราะอาจจะไปกดทับซิลิโคนที่เสริมเข้าไปใหม่และเคลื่อนที่ได้ ใช้วิธีนอนศรีษะสูง หมอนรองสัก 1-2 ใบ เพื่อทำให้ส่วนที่บวม ยุบลงได้เร็วขึ้น
การอักเสบติดเชื้อ : การอักเสบติดเชื้อ เป็นอันที่สามารถพบได้ ในการผ่าตัดเสริมจมูก ซึ่งเราจะแบ่งเป็น 2 ระยะ คือ
ระยะแรก : ในช่างแรก ไม่เกิน 3-4 สัปดาห์
ระยะหลัง : คือเกิน 3-4 สัปดาห์ ขึ้นไป
ก่อนอื่นต้องทราบก่อนว่า การเกิดการอักเสบนั้น เกิดจากมีเชื้อแบคทีเรีย มันเข้าไป ซึ่งการที่มีซิลิโคนอยู่นั้น เราถือว่าเป็นสิ่งแปลกปลอม ถ้ามีเชื้อโรคเข้าไปแล้ว จะทำให้รักษายากกว่าการที่ไม่มีสิ่งแปลกปลอมมาก
เชื้อโรคที่เข้าไป มาจากไหน อันแรกก็เกิดตอนผ่าตัด ซึ่งอันนี้เราจะป้องกันโดยการก่อนผ่าตัด จะให้ผู้ป่วยล้างหน้า และถูสบู่ ในรูจมูก เชื้อโรคในรูจมูกเรามีเยอะนะคะ ซึ่งการล้างในรูจมูก ก็จะเป็นการลดเชื้อโรค , การฉีดยาแก้อักเสบ ก็จะเป็นการป้องกันไว้ก่อน และสุดท้าย
คือการใช้ยาฆ่าเชื้อแบบทา ระหว่างผ่าตัดด้วย
ต่อมาเมื่อทำเสร็จ ตรงส่วนแผลยังมีแผล และไหมค้างอยู่ ก็ตอ้งระวัง เพราะถ้าเกิดมีน้ำมูก มันก็สามารถวิ่งเช้าทางนี้ได้เหมือนกัน , การป้องกัน .... ห้ามเอามือ เข้าไปแคะแกะเกา หรือน้ำมูก ก็มีเชื้อโรค ซึ่งตอ้งป้องกันโดยใช้ยาป้ายแผล และเช็ดทำความสะอาดบ่อยๆ โดยใช้น้ำสะอาด หรือน้ำเกลือก็ได้
ระยะยาว คือหลังจากที่แผลหายแล้ว ก็ต้องดูแล ไม่ควรแคะแกะเกาในรูจมูกมากนัก เพราะผิวหนังด้านในถือว่าเป็นผิวอ่อน (mucosa)ซึ่งการแคะ ทำให้เกิดแผลถลอก และเป็นทางที่เชื้อโรคเข้าไปได้เช่นเดียวกัน
อาการ : จะเริ่มจากมี ปวด บวม แดง ร้อน ทั้งๆที่ทั้งหมดยุบลงหมดแล้ว
ซึ่งการรักษา จริงๆที่ดีสุด คือการป้องกัน ปัจจัยที่ว่ามา แต่ถ้าเกิดขึ้นมาแล้ว อันดับแรกต้องรีบทานยาแก้อักเสบ(ชนิดแรง) หรือแม้แต่การฉีดยา และดูอาการอย่างใกล้ชิด โดยถ้าอาการค่อยยุบลงภายใน 3-4 วัน ก็ถือว่าสามารถดูอาการต่อไปได้
บวมเชียวบริเวณจมูก และใต้ตา : พบได้ โดยเฉพาะใน3-4 วันแรก และจากนั้นอาจจะค่อยๆยุบลง การที่มีเลือดออกใต้ตาด้วย แม้ว่าจะทำแค่จมูก เพราะการที่มีเลือดซึมในโพรงซิลิโคนในช่วงแรก ก็จะซึมไปด้านข้างได้ เพราะตอนนอนเลือดก็จะค่อยๆซึมตามแรงโน้มถ่วง แต่พวกนี้ไม่ได้มีปัญหามาก เพราะเลือดที่ออกมา ร่างกายจะค่อยๆดูดซึมได้เอง
ถือว่าเป็นอีกปัญหาที่สามารถพบได้ ซึ่งอันดับแรกต้องดูก่อนว่า แกนจมูกเดิมเป็นอย่างไร ถ้าปกติ ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้ามีปัญหาเช่นเคยมีประวัติอุบัติเหตุมาก่อน จมูกเคยแตก หรือยุบมาก่อน ก็ตอ้งดูแล้วว่าส่วนที่เคยมีปัญหานั้น หลังผ่าตัดเสริมจมูก
จะมีปัญหาหรือไม่ เช่นทำให้ดูแกนเอียงขึ้น หรืออาจจะช่วยให้เห็นแกนเอียงน้อยลงได้ ขึ้นกับโครงสร้างจมูกดั่งเดิม
ต่อมาคือ แกนจมูกปกติดี หลังเสริมแล้วมีจมูกเอียง ก็ต้องแยกก่อนว่า เอียงตั้งแต่แรก หรือ ค่อยๆมาดูเอียงขึ้นหลังจากใส่มาเกิน 3-6 เดือน
ซึ่งโดยปกติระหว่างการเสริม ก็จะมีการเช็คกันระดับหนึ่งแล้ว เพื่อให้แกนตั้งตรง
ช่วงหลังผ่าตัด 2 สัปดาห์แรก การเช็คว่าแกนเอียงหรือไม่ อาจจะค่อนข้างยาก เพราะการที่ฉีดยาชา รวมถึงห้อเลือดในโพรง อาจจะทำให้ดูหลอกตาได้ ซึ่งการดูต้องดูที่แกนซิลิโคนเป็นหลัก เช่นเงยหน้า แล้วดูเงากึ่งกลางซิลิโคนว่าตรงหรือไม่
แต่ส่วนใหญ่ไม่แนะนำให้มีการดัดอะไรในช่วงแรกนี้ เพราะอาจจะทำให้ซิลิโคนเกิดไม่ยึดติดแน่นด้านบน และทำให้ขยับได้ทั้งอัน
การดูแล ในช่วง 2สัปดาห์ ถึง 1 เดือน ถือว่าสำคัญที่สุด คือการไม่นอนตะแคง หรือนอนทับจมูก เพราะในช่วงแรก ยังไม่ได้แข็งแรงมากนัก การนอนทับ อาจจะทำให้ซิลิโคนเอียงได้ การป้องกัน โดยเฉพาะช่วงหลับซึ่งเราอาจจะไม่รู้ตัว แต่แนะนำให้ใช้หมอนประคองไว้สองข้างของศรีษะ หรือใช้หมอนล็อคคอ ก็ได้
การกระแทก หรือการปัดโดยไม่ได้ตั้งใจ ก็ตอ้งระวัง เพราะบางคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นหลังเสริมจมูกไปใหม่ๆ อาจจะทำให้ปวด และแกนเคลื่อนที่ได้
ระยะท้ายๆ คือช่วงแรกปกติ แต่หลัง 3-6 เดือน แล้วอาจจะดูมีเอียงบ้าง พวกนี้อาจจะเกิดจากพังพืดในโพรงจมูก ซึ่งพบได้ไม่บ่อย แต่อาจจะแก้ไขโดยการนวดได้ แต่ยังไงควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำเองนะคะ
หน้าแรก เสริมจมูก ตาสองชั้น ตัดปีกจมูก ไขมันใต้ตา เสริมคาง หูกาง ตกแต่งปลายจมูกใหญ่ให้เล็กลง หนังตาตกแต่กำเนิด ตกแต่งริมฝีปาก ลักยิ้ม ปากกระจับ เสริมหน้าอก ลดขนาดหน้าอก ตกแต่งไขมันหน้าท้อง แผลเป็น คีลอยด์ ราคา แผนที่ นัดหมาย มัดจำ เสริมดั้ง
Copyright © 2015 · All Rights Reserved · PEPKIK